“สิ่งที่มี...ดีที่สุดแล้ว The Yellow World”
สวัสดีค่ะ ChibiJibiar ขอแนะนำหนังสือแนวอัตชีวประวัติ/พัฒนาตัวเอง ที่อัลแบร์ต เอสปินอซา เขียนเล่าถึงการนำประสบการณ์/บทเรียนที่ได้รับจากการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคมะเร็งกระดูกตั้งแต่อายุ 14 ปี ทำให้เขารู้จักกับโลกสีเหลือง โลกที่จะเปลี่ยนให้คุณมีชีวิตที่มีความสุขด้วยการค้นพบ 23 อย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาค้นพบในช่วงตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่เข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล และในที่สุดเขาก็หายจากโรคร้ายนั้นมาได้ มันเป็นบทเรียนที่แสนวิเศษที่โรคมะเร็งมอบให้ กับเขาถึงแม้ว่ามันจะพรากขา 1 ข้าง ปอด 1 ข้าง และชิ้นตับบางส่วนของเขาไปก็ตาม
มันเป็นหนังสือที่ควรจะอ่านเลยก็ว่าได้
ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องป่วยเท่านั้นจึงจะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างเข้าใจ
เพราะการค้นพบทั้ง 23 อย่างนี้ อัลแบร์ตล้วนแล้วแต่ได้นำมาใช้ในชีวิตหลังจากที่เขาหายจากโรคมะเร็งและกลับมาใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
เพียงแต่มันเป็นบทเรียนที่โรคมะเร็งได้มอบกับเขาเท่านั้นเอง ซึ่งในหนังสือเล่มนี้
เราจะได้รู้การค้นพบ 23 อย่าง และทำความรู้จักกับโลกสีเหลืองและสิ่งที่ชาวสีเหลืองจะมอบให้กับคุณ
อัลแบร์ต เล่าเรื่องราวได้น่าสนใจ
บางครั้งก็สอดแทรกมุกตลกเข้าไปพอให้ยิ้มและหัวเราะได้บ้าง อ่านแล้วนึกภาพออกเลยว่าเขารู้ขอบคุณช่วงตลอดระยะเวลา 10
ปีมากแค่ไหน เพราะมันทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายเหลือเกิน
มันเป็นช่วงเวลาที่อยู่ใกล้ความตายมาก เจ็บปวด สูญเสีย ฯลฯ แต่เขาก็สามารถผ่านพ้นการเข้า
ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลมาได้ ต้องเป็นเขาเท่านั้นที่จะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี
และเขาก็เหมาะมากที่จะสอนให้เราได้ลองปรับเปลี่ยนการมองโลกในแบบวิถีใหม่ที่จะทำให้เรามีความสุข
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจและข้อคิดดี
ๆ ที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
o ประสบการณ์ในอดีตสอนเราว่า...บางครั้งการยอมเสียโอกาสบางอย่าง
อาจเป็นการสร้างโอกาสบางอย่างที่ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะ “โอกาสในการมีความสุข”
o “ความเจ็บปวด
และความกลัว” ไม่มีอยู่จริง มันสามารถจางหายไปได้
เพียงเราเชื่อว่ามันไม่ได้มีอยู่จริง
o เปลี่ยนปฏิกิริยาที่รีบร้อน
ลุ่มหลง หน้ามืดตามัว เป็นการทำให้เย็นลง หยุดรอ แล้วตั้งรับพร้อมจะสู้และแก้ไข
o ความรู้สึกมีความสุขจะเป็นวัตถุดิบในการสร้างเสียงหัวเราะ
o หาบันทึกสักเล่มแล้วจดบันทึกสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขวันละ
3 – 4 อย่าง กลับมาอ่านสิ่งนั้นซ้ำ แล้วเราจะรู้ว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุข
ไม่ว่าจะเป็น คน เวลา สถานที่ หรืออะไรก็ตาม เราจะค้นพบตัวเองเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ ก็ถือเป็นอีกขั้นของสภาวะจิตใจใหม่
o การเป่าลมออกจากปากแล้วอธิษฐาน
ทำได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอแค่วันเกิด
o จงเชื่อมั่นและเคารพตัวตนในอดีตของเรา
ถึงแม้ว่าการตัดสินใจผิดพลาดในตอนนั้นจะส่งผลร้ายต่อชีวิตในปัจจุบันมากขนาดไหน เพราะในวันนั้น
“เราเองที่เป็นคนตัดสินใจ”
o “เวลาโมโห”
จะลองอัดเสียงตัวเองไว้ฟังแทนการโทรไประบายให้เพื่อนฟัง แล้วเราจะรู้ว่ามันน่ากลัว
และน่าสยดสยองแค่ไหน แล้วเราจะได้คลายความโกรธเกรี้ยวนั้นลง
o จุดหมายปลายทางเดียวกันก็จริง
แต่ระหว่างทางก็มีหลากหลายวิธีเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น อย่าตัดสินใคร
เพียงเพราะเขาเดินคนละทางกับเรา
o เรามีโมเมนต์อยู่ตลอดเวลา
แต่เราไม่ได้สนใจมัน ทำให้เราไม่ค่อยรู้จักตัวเองสักเท่าไหร่
คำถามคือ ...
เราจะเข้าไปในโลกสีเหลืองอย่างไร แล้วชาวสีเหลืองเป็นใคร เขามีความสำคัญของเรามากขนาดไหน
และที่สำคัญ คือ เราจะค้นหาชาวสีเหลืองเจอได้จากที่ไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาใช่
“ตอนนี้อยากออกไปค้นหาชาวสีเหลืองของตัวบ้างจัง
และเราอาจค้นพบว่าเราก็เป็นชาวสีเหลืองในโลกของใครบางคนด้วยเช่นกัน”
ซึ่งเรามีชาวสีเหลืองได้เพียง 23 คนเท่านั้น
มาทำความรู้จักกับโลกใบใหม่
โลกที่อัลแบร์ตเรียกว่า “โลกสีเหลือง” โลกที่ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ
โลกที่มีความเกี่ยวข้องกับชาวสีเหลืองไปด้วยกันนะคะ แล้วพบกับการแนะนำหนังสืออ่านนอกเวลางานเล่มถัดไปกันใหม่นะคะ
สวัสดีค่ะ
สิ่งที่มี...ดีที่สุดแล้ว
The
Yellow World
ผู้เขียน : อัลแบร์ต เอสปินอซา
ผู้แปล : ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ
ราคา 195 บาท
สำนักพิมพ์บอลลูน
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2558
(จีฟสั่งซื้อจาก Lazada ชื่อร้าน Learning Station เมื่อเดือนตุลาคม 2564
ค่ะ ลองไปหาซื้อมาอ่านนะคะ เล่มนี้แนะนำมาก ๆ ค่ะ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น